ก่อนหน้านี้ติดตามข่าวเรื่องของ พ.ร.บ. ประกันสังคม ฉบับใหม่” ทราบว่า พ.ร.บ ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และจะมีผลบังคับใช้ 20 ต.ค.58 เดือนหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ จึงเข้าไปอ่านดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงและมีประโยชน์เพิ่มเติมอะไรบ้าง ก็ต้องขอบอกเลยว่ามีการเพิ่มเติมในส่วนของสิทธิประโยชน์ทดแทนที่มีอยู่เดิม จะทำให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้นอย่างน่าสนใจที่เดียว ผมจึงขอเอามาลงเพื่อเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์อีกช่องทางหนึ่ง เราไปดูกันเลยครับว่าสิทธิประโยชน์ทดแทนที่เพิ่มเติมขึ้นมานั้นมีอะไรบ้าง
กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
|
|
เพิ่ม
|
ค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคและค่าใช้จ่ายเป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตน
ในกรณีได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์
|
ปัจจุบัน
|
มีสิทธิได้รับเฉพาะค่าตรวจวินิจฉัยโรค
ค่าบำบัดทางการแพทย์ ค่ากินอยู่ และรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล ค่ายา
และค่าเวชภัณฑ์ ค่ารถพยาบาล หรือค่าพาหนะรับส่งผู้ป่วย
|
กรณีคลอดบุตร
|
|
เพิ่ม
|
มีสิทธิได้รับไม่จำกัดจำนวนครั้ง
|
ปัจจุบัน
|
มีสิทธิได้รับไม่เกิน 2 ครั้ง
เหมาจ่าย ครั้งละ 13,000 บาท + เงินสงเคราะห์การหยุดงาน 90
วัน
|
กรณีสงเคราะห์บุตร
|
|
เพิ่ม
|
มีสิทธิได้รับคราวละไม่เกิน 3 คน
|
ปัจจุบัน
|
ได้รับสำหรับบุตรอายุ 0 - 6 ปี คราวละ ไม่เกิน 2 คน เหมาจ่ายรายเดือน เดือนละ 400
บาท ต่อคน
|
กรณีว่างงาน
|
|
เพิ่ม
|
ให้ความคุ้มครองสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานแก่ผู้ประกันตน
กรณีนายจ้างหยุดกิจการชั่วคราวเนื่องจากเหตุสุดวิสัยโดยยังไม่มีการเลิกจ้าง เช่น
กรณีสถานประกอบการถูกน้ำท่วม
|
ปัจจุบัน
|
ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับเมื่อถูกเลิกจ้างหรือลาออก
|
ผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง หรือผู้ทุพพลภาพ
|
|
เพิ่ม
|
สิทธิประโยชน์กรณีตายแก่ผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง/
ผู้ทุพพลภาพ แม้ส่งเงินสมทบไม่ครบตามสิทธิ
|
ปัจจุบัน
|
ไม่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน กรณีตาย
|
ผู้จงใจให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ และตาย
|
|
เพิ่ม
|
สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนที่จงใจทำให้ตนเองบาดเจ็บ
ทุพพลภาพ และตาย หรือยินยอมให้ผู้อื่นก่อให้เกิดขึ้น
|
ปัจจุบัน
|
ไม่ได้รับความคุ้มครอง
|
กรณีทุพพลภาพ
|
|
เพิ่ม
|
1.
ผู้ประกันตนซึ่งสูญเสียสมรรถภาพ ไม่ถึงร้อยละ 50 ของร่างกายมีสิทธิได้รับประโยชน์
ทดแทนกรณีทุพพลภาพ
2.
ผู้ทุพพลภาพอยู่ก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2538 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ตลอดชีวิต
|
ปัจจุบัน
|
1.
ผู้ประกันตนต้องสูญเสียสมรรถภาพของร่างกายร้อยละ 50 ถึงจะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณี
ทุพพลภาพ
2.
ผู้ทุพพลภาพอยู่ก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2538 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้
15 ปี
|
กรณีตาย เงินสงเคราะห์กรณีที่ผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย
|
|
แก้ไข
|
1.
ถ้าก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ประกันตนได้ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป
แต่ไม่ถึง
120
เดือน ให้จ่ายเงินสงเคราะห์เป็นจำนวนเท่ากับร้อยละ 50 ของค่าจ้าง รายเดือน ที่
คำนวณได้ตามมาตรา
57
คูณด้วย 4
2.
ถ้าก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ประกันตนได้ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไปให้
จ่ายเงินสงเคราะห์เป็นจำนวนเท่ากับร้อยละ
50 ของค่าจ้างรายเดือนที่คำนวณได้ตาม
มาตรา 57 คูณด้วย
12
|
ปรับปรุงหลักเกณฑ์การได้รับสิทธิประโยชน์
|
|
เพิ่ม
|
1.
ผู้ประกันตนสามารถทำหนังสือระบุบุคคลผู้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จชราภาพไว้ล่วงหน้าได้
โดยมีสิทธิได้รับร่วมกับทายาท หากไม่มีทายาท
หรือไม่มีบุคคลที่ทำหนังสือระบุจะให้สิทธิ
แก่ พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย
ลุง ป้า น้า อา
2.
ขยายระยะเวลาการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนจาก 1 ปี เป็น 2 ปี
3.
ขยายความคุ้มครองลูกจ้างส่วนราชการ
ขยายความคุ้มครองไปถึงลูกจ้างชั่วคราวทุก
ประเภทของส่วนราชการ
4.
ขยายความคุ้มครองให้กับลูกจ้างของนายจ้างที่มีสำนักงานในประเทศ
และไปประจำ
ทำงานในต่างประเทศ
|
ปัจจุบัน
|
1. ผู้ประกันตนที่ไม่มีทายาท (บิดา มารดา บุตร และคู่สมรส) ไม่สามารถทำหนังสือระบุบุคคลผู้มีสิทธิ
รับเงินบำเหน็จชราภาพไว้ล่วงหน้าได้
โดยเงินบำเหน็จชราภาพจะตกเป็นของกองทุน
2. ระยะเวลาการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนภายใน 1 ปี
3. คุ้มครองเฉพาะลูกจ้างชั่วคราวรายเดือน
4. ไม่คุ้มครอง
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น